มีเด็ก กลุ่มหนึ่งซึ่งในกลุ่มมีเด็กชายตัวโต เด็กผู้ชาย 3 คน และเด็กผู้หญิงอีก 1 คนรวมเป็น
5 คน
ได้ลงเล่นน้ำซึ่งเด็กผู้ชายทั้งหลายก็ลงไปเล่นและปล่อยเด็กผู้หญิงไว้บนหาด
ตามลำพังต่อมาอีกไม่นานก็มีเด็กผู้ชายอีก 4 คนลงไปเล่นน้ำอีก
เด็กผู้หญิงยังนั่งอยู่ที่เดิมคอยกวาดทรายเล่นทำเป็นช่องตารางแล้วกำหนดเป็น
ห้องต่างๆ ในบ้านซึ่งเธอดีใจกับผลงานมาก
พอถึงตอนเที่ยงพวกเด็กผู้ชายก็ขึ้นจากน้ำมีเด็กชายคนหนึ่งท่าทางซุกซนที่มา
กับกลุ่มหลังได้ดึงดอกเข็มที่ปักบนกองทรายเธอออกและเหยียบกองทรายเธอจนพังไป หมด
เธอจึงร้องไห้มองดูดินทรายที่พังราบแล้วเธอก็บอกกับตัวเองว่า
"ทำใหม่ก็ได้" เธอจึงทำเจดีย์ขึ้นมาใหม่และชื่นชมกับผลงานชิ้นใหม่
ต่อมาเด็กชายกลุ่มนั้นก็วิ่งขึ้นจากน้ำ ทำให้น้ำกระเด็นโดนเจดีย์ของเธอพังทลาย
เธอร้องไห้ลั่น มองหาคนที่ทำ เธอไม่สนใจเริ่มคุ้ยทรายขึ้นมาทำเจดีย์ใหม่
ขณะเดียวกันมีเด็กชายร่างเล็กเข้ามาอยู่ด้วย เขาถามเธอว่า “จะทำไปทำไมเดี๋ยวก็พังอีก”
แต่ยังคงตั้งตาทำต่อไป
เธอนั่งลงในน้ำหันหน้าเข้าหาฝั่งเป็นกำบังคลื่น
คลื่นซัดจนพังหลายครั้งแต่เธอก็ไม่สิ้นความพยายามเขาจึงช่วยกันทำเจดีย์
ข้อคิดที่ได้จากเรื่อง
1.การที่มีความพยายามในการทำอะไร ก็จะทำงานนั้นได้เสร็จสมบูรณ์ ไม่ว่าจะอุปสรรคอะไร ถ้ามีความอดทนอดกลั้น ก็จะประสบผลสำเร็จ2.การรวมกันเป็นหนึ่งเดียวของคนในสังคม ไม่ว่าจะเป็นสังคมใดก็ตาม เหมือนกับกองทรายกองใหญ่ แม้ว่าคลื่นจะซัดมาแรงแค่ไหน กองทรายกองนั้นก็จะไม่พัง ถึงพังก็น้อย แต่เมื่อคนในสังคมนั้นๆไม่สามัคคีกันแล้ว เปรียบได้กับกองทรายกองเล็ก ที่พร้อมจะถล่มได้ทุกเมื่อ ดังนั้น ความสามัคคีคือพลังที่สามารถฝ่าพ้นอุปสรรคน้อยใหญ่ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น